



รายละเอียด
รังสีอินฟราเรดคืออะไร รังสีเอกซ์ รังสีอินฟราเรด หรือรังสีความร้อน เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่แผ่มาจากดวงอาทิตย์ รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์นั้นมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นมีความยาวคลื่นต่างกัน เช่นแสงที่ตามองเห็น (Visible light) มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 400-700 นาโนเมตร, รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet radion) มีความยาวคลื่น 1-400 นาโนเมตร, รังสีแกมมา (Gamma ray) มีความยาวคลื่นน้อยกว่า 0.01 นาโนเมตร, รังสีเอกซ์ (X-ray) ความยาวคลื่น 0.01-1 นาโนเมตร เป็นต้น สำหรับรังสีอินฟราเรดมีความยาวคลื่น 700 นาโนเมตร -1 มิลลิเมตร เป็นคลื่นที่มีความถี่ ถัดจากความถี่ของสีแดงลงมา มนุษย์จึงไม่สามารถมองเห็นรังสีอินฟราเรด แต่ก็รู้สึกถึงความร้อนได้โดยดวงอาทิตย์จะมีการแผ่รังสีอินฟราเรดในช่วงตั้งแต่ 780 - 2500 นาโนเมตร รังสีอินฟราเรดส่งผลเสียอะไรต่อผิวของเราบ้าง โดยทั่วไปเราจะเข้าใจกันว่า เฉพาะรังสียูวีจะเป็นรังสีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่ความเป็นจริงแล้ว รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุชั้นผิวหนังเราเข้าไปได้ลึกกว่ารังสียูวีมาก ซึ่งการทะลุทะลวงเข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนัง รังสีอินฟราเรดจะไปทำลายคอลลาเจน (Collagen) และอิลาสติน (Elastin) ทำให้ผิวหนังเกิดปัญหา คือ ㆍปัญหาฝ้าแดด, ผิวหมองคล้ำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอ, การสร้างเม็ดสีผิดปกติ ㆍปัญหาริ้วรอย, เหี่ยวย่น, แก่ก่อนวัย ㆍผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น ㆍมะเร็งผิวหนัง UVA เจาะเข้าไปได้ถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดริ้วรอยถาวร UVB ทำลายผิวหนังชั้นนอกทำให้เกิดอาการแดง แสบ และผิวหมองคล้ำ UVC ถูกกรองที่ชั้นโอโซน (แต่ในปัจจุบันชั้นโอโซนถูกทำลายไปมาก) IR รังสีอินฟราเรด เข้าสู่เซลล์ผิวในระดับเซลล์ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย (ผิวเหี่ยว) Smart Tec Blue Phoenix เป็นฟิล์มนาโนเซรามิค ที่ใช้ ATO (Antimony Tin Oxide) และ Tungsten ผสมกับเทคโนโลยีการเคลือบขั้นสูงสุด ทำให้ได้ฟิล์มลดความร้อนสูงที่สามารถตัดรังสีอินฟราเรดในช่วง 780-2500 nm ได้มากกว่า 95% ทำให้สามารถลดความร้อนได้สูงโดยไม่ทำให้รู้สึกแสบร้อนวูบวาบจากการแผ่ของคลื่นรังสีอินฟราเรดที่มาจากแสงแดดเหมือนฟิล์มเซรามิคทั่วไป ไม่บล็อคการทำงานของคลื่นการสื่อสารทุกชนิด เช่น 4G, 5G, GPS หรือ Easy pass และไม่ขุ่นมัวหลังจาก การติดตั้ง Smart Tec Blue Phoenix แล้วจะดูทึบ เมื่อมองจากด้านนอกเข้าด้านใน และจะมองดูสว่างสบายตา และมีทัศนวิสัยที่ดีกว่า เมื่อมองจากด้านในออกด้านนอก ทำไมฟิล์มรุ่น Blue Phoenix จึงลดความร้อนได้ดี โดยไม่รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนฟิล์มเซรามิคโดยทั่วไป โดยปกติทั่วไปการลดรังสีอินฟราเรดของฟิล์มจะสามารถลด และระบุค่าการลดรังสีอินฟราเรดสูงสุดแค่จุดใดจุดหนึ่ง จากสารที่ทำการผลิตเท่านั้น เช่น สารบางตัวจะลดรังสีอินฟราเรดได้ 99% ที่ความยาวคลื่น 900 นาโนเมตร แต่อาจจะลดรังสีอินฟราเรดได้แค่ 80% ที่ความยาวคลื่น 1400 นาโนเมตร และจะลดลงเรื่อยๆ ตามความยาวของคลื่น เป็นต้น จึงทำให้รู้สึกร้อนเป็นช่วงๆ และเนื่องจากอุปกรณ์ในการตรวจวัด มีราคาค่อนข้างจะสูงมาก ส่วนมากจะใช้อุปกรณ์วัดที่เป็นแบบพกพา ซึ่งสามารถตรวจวัดค่ารังสีอินฟราเรด ณ จุดใดจุดหนึ่ง และส่วนมากจะระบุค่าที่สูงที่สุดเท่านั้น Smart Tec Blue Phoenix ใช้โครงสร้างการผลิตของสินค้าที่ใช้นาโนเซรามิคชั้นสูง โดยนำสาร ATO (Antimony Tin Oxide) ผสมรวมกับแร่ Tungsten เคลือบไปบนชั้นฟิล์มเพื่อให้เนื้อฟิล์มเซรามิค ที่มีคุณสมบัติในการตัดคลื่นรังสีอินฟราเรดในช่วงกว้างตั้งแต่ 780-2500 นาโนเมตร ได้มากกว่า 95% ซึ่งรังสีอินฟราเรดในช่วง 780-2500 นาโนเมตร จะเป็นช่วงที่แสงแดดจากดวงอาทิตย์แผ่มายังโลกเรา และเป็นตัวการหลักทำให้เรารู้สึกถึงความร้อน ดังนั้น Smart Tec Blue Phoenix จึงให้ความรู้สึกที่เย็นกว่า ในทุกช่วงเวลาที่รังสีอินฟราเรดจากดวงอาทิตย์ทำการแผ่มา Smart Tec Blue Phoenix ใช้วัตถุดิบ และแผ่นฟิล์ม (P.E.T.) เกรดพรีเมียมจึงทำให้เนื้อฟิล์มมีความใส-เคลียร์เป็นพิเศษ โดยให้มุมมองด้านในสู่ด้านนอกที่ชัดเจน โดยไม่ขึ้นหมอกขาว และไม่เป็นสนิมที่เนื้อฟิล์มรหัสสินค้า | แสงส่องผ่าน (VLT) | สะท้อนแสง (VLR) | ป้องกันรังสียูวี (UV) | ลดรังสีอินฟราเรด (IR) | ค่าการลดความร้อนรวม (TSER) | ค่าสัมประสิทธิ์การบังแดด (SC) | ค่าสัมประสิทธิ์การส่งผ่านความร้อนจากรังสีอาทิตย์ (SHGC) | การลดความร้อนรวมคำนวณเฉพาะในช่วงแสง | ตัวอย่างสีฟิล์ม | |
900-1000 nm | 780-2500 nm | |||||||||
BPN 9550 | 59.8% | 8.1% | 99% | 97.9% | 96.6% | 51.1% | 0.57 | 0.49 | 71.89 |
![]() |
BPN 9535 | 33.4% | 5.5% | 99% | 95.7% | 95.5% | 57.1% | 0.50 | 0.43 | 82.89 |
![]() |
BPN 9515 | 15.9% | 4.8% | 99% | 96.3% | 95.7% | 62.2% | 0.44 | 0.38 | 90.70 |
![]() |
BPN 9505 | 6.4% | 4.1% | 99% | 97.5% | 96.5% | 65.2% | 0.40 | 0.35 | 95.30 |
![]() |